ประเทศสหภาพยุโรปร่วมกับหุ้นส่วนในภูมิภาคประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศเกี่ยวกับความร่วมมือในอินโด-แปซิฟิกที่กรุงปารีส
เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2565 ฯพณฯ นายฌอง-อีฟว์ เลอ ดริยอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของฝรั่งเศส และ ฯพณฯ นายโจเซพ บอเรลล์ ฟอนเทเยส ผู้แทนระดับสูงด้านนโยบายต่างประเทศและความมั่นคงและรองประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ร่วมเป็นประธานในการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศเกี่ยวกับความร่วมมือในอินโด-แปซิฟิก ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส การประชุมครั้งนี้มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจาก 27 ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป และ 30 ประเทศคู่เจรจาในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกเข้าร่วม รวมถึง ฯพณฯ นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทย
ในงานประชุมครั้งนี้ ตัวแทนจากสหภาพยุโรปเน้นย้ำถึงความสำคัญของภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกต่อยุโรป นายฌอง-อีฟว์ เลอ ดริยองได้กล่าวว่า “เราต่างให้ความสำคัญกับความร่วมมือแบบพหุภาคีและเคารพต่อระบบระหว่างประเทศที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของกฎหมาย ประเทศสมาชิกของสหภาพยุโรปพร้อมเข้ามามีบทบาทในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกมากขึ้น ผ่านการร่วมมืออย่างเป็นรูปธรรมที่ตอบสนองต่อความความหวังต่อหุ้นส่วนของเราในภูมิภาคนี้” นายโจเซพ บอเรลล์ ฟอนเทเยส ได้กล่าวว่า “เราได้ร่างยุทธศาสตร์ของสหภาพยุโรปเพื่อความร่วมมือในอินโด-แปซิฟิกและได้เสนอยุทธศาสตร์นี้ต่อหุ้นส่วนของเรา เพื่อให้เราได้ร่วมมือกันในการสร้างเสถียรภาพ ความมั่นคง ความมั่งคั่ง และก่อให้เกิดการพัฒนาร่วมกัน สหภาพยุโรปเชื่อว่าเรามีศักยภาพ ความเชี่ยวชาญ และทรัพยากรที่จำเป็นในการร่วมกับหุ้นส่วนเพื่อหาทางออกต่อปัญหาต่าง ๆ ที่โลกกำลังเผชิญอยู่ได้”
การประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศเกี่ยวกับความร่วมมือในอินโด-แปซิฟิก จัดขึ้นตามกรอบการรับรองยุทธศาสตร์ของสหภาพยุโรปเพื่อความร่วมมือในอินโด-แปซิฟิก และยุทธศาสตร์ Global Gateway ของยุโรป รวมทั้งเป็นเวทีหารือในประเด็นที่เกี่ยวข้องทั้งหมด 3 ด้าน ได้แก่ ด้านความมั่นคงและการป้องกันประเทศ ด้านความเชื่อมโยงระหว่างกัน และด้านประเด็นระดับโลก
ในด้านความมั่นคงและการป้องกันประเทศ สหภาพยุโรปย้ำถึงความมุ่งมั่นในการยกระดับความร่วมมือกับพันธมิตรในภูมิภาคด้านความมั่นคงและการป้องกันประเทศ โดยการเสริมสร้างการเจรจาและกระชับความสัมพันธ์แบบทวิภาคี
ในด้านความเชื่อมโยงระหว่างกัน สหภาพยุโรปจะวางรากฐานในการพัฒนาการเชื่อมโยงอย่างรอบด้านกับพันธมิตรในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกผ่านยุทธศาสตร์ Global Gateway นอกจากนี้ สหภาพยุโรปยังเน้นย้ำถึงความสำคัญในการสร้างเงื่อนไขต่าง ๆ ที่นำไปสู่โครงการ Team Europe Initiative on Sustainable Connectivity in ASEAN ซึ่งโครงการนี้มีเป้าหมายในการพัฒนาโครงการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและเสริมสร้างการพัฒนาอย่างยั่งยืนที่เป็นรูปธรรมกับพันธมิตรในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ในด้านของประเด็นระดับโลก การประชุมครั้งนี้ได้ให้ความสำคัญกับ 3 ประเด็นหลัก ได้แก่ 1. การบรรเทาผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ 2. การปกป้องความหลากหลายทางชีวภาพและมหาสมุทร 3. ความร่วมมือด้านสาธารณสุข โดยที่ประชุมยังได้หารือเกี่ยวกับโครงการริเริ่ม Green Team Europe Initiative ร่วมกับประชาคมอาเซียนและประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในการสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านมาใช้พลังงานสะอาดในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก
การประชุมระดับรัฐมนตรีนี้ จัดขึ้นในวาระที่ประเทศฝรั่งเศสได้เป็นประธานคณะมนตรีแห่งสหภาพยุโรป หลังจากที่ผู้นำชาติสมาชิกสหภาพยุโรป ได้ให้การรับรองแผนยุทธศาสตร์ของสหภาพยุโรปเพื่อความร่วมมือในอินโด-แปซิฟิก เมื่อเดือนตุลาคม 2564 สหภาพยุโรป ตั้งตารอที่จะร่วมพัฒนาวิสัยทัศน์สำหรับภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกกับพันธมิตรของเรา รวมถึงประเทศไทย ทั้งในระดับทวิภาคีและผ่านกรอบความร่วมมืออาเซียน เพื่อให้บรรลุอนาคตที่ยั่งยืนสำหรับภูมิภาคนี้ โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
นอกจากเข้าประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศเกี่ยวกับความร่วมมือในอินโด-แปซิฟิกแล้ว นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทย ได้พบปะกับนายโจเซพ บอเรลล์ ผู้แทนระดับสูงและรองประธานคณะกรรมาธิการยุโรป และนายฟรานส์ ทิมเมอร์แมนส์ รองประธานคณะกรรมาธิการยุโรป เพื่อหารือในประเด็นสำคัญระดับโลก ภูมิภาค และทวิภาคี เช่น ความสัมพันธ์ระหว่างสหภาพยุโรป-ไทย การพัฒนาที่ยั่งยืน และความร่วมมือด้านสาธารณสุข รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีต่างประเทศของไทยยังได้พบหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของฝรั่งเศส ในการหารือ ทั้งสองฝ่ายตกลงลงนามแนวทางสำหรับความสัมพันธ์ระหว่างไทย-ฝรั่งเศส (2565 - 2567) โดยมุ่งเป้ายกระดับความสัมพันธ์ทวิภาคีสู่ระดับความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์